วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

Agel หลอก ผมต้องพิสูจน์

Agel หลอก ผมต้องพิสูจน์
จากการที่ผมได้อ่านบทความหลายๆบทความถึงเรื่อง Agel หลอก ทำให้ผมได้พบกับสิ่งดีๆหลายๆอย่าง โดยเฉพาะบทความ Agel หลอก ของอาจารย์เอกภพ เกษมวรศักดิ์ หลังจากที่ผมได้อ่านแล้วเหมือนผมจบปริญญาตรีทางด้านธุรกิจเครือข่ายเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อว่าแค่บทความบทความหนึ่ง ที่ชื่อว่า Agel หลอก หลอก จริงหรือ? ของอาจารย์จะเขียนได้ดี แอบแฝงการเรียนการสอนไว้ในบทความได้ดีขนาดนั้น วันนี้ผมตัดสินใจที่จะร่วมทีมกับอาจารย์เพราะผมเชื่อมั่นว่าคนที่มีมุมมองที่ดี มีความจริงใจที่จะมอบความรู้ ย่อมจะต้องพาทุกคนประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ทุกวันนี้บทความ Agel หลอก หลอก จริงหรือ ? ของอาจารย์เอกภพ เกษมวรศักดิ์ ก็ยังคงอยู่ในหน้าแรก ถ้าคุณค้นหาคำว่า Agel หลอก ผมอยากแนะนำให้เพื่อนๆที่ทำธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM ได้ลองเข้าไปอ่านและสัมผัสดูจะได้เปิดมุมมองที่กว้างขึ้นเหมือนผม
หรือถ้าเพื่อนๆที่สนใจและอยากเรียนและทำธุรกิจไปพร้อมกับผมเพื่อที่เราจะก้าวไปด้วยกัน ติดต่อผมได้ครับที่ give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กร ครับ

หวังเป็นอย่างยิ่งนะครับว่าเพื่อนๆ จะมีโอกาสได้อ่านบทความ Agel หลอก ของอาจารย์ เอกภพ เกษมวรศักดิ์ สักครั้ง โดยเฉพาะ คัมภีร์แรงดึงดูด ที่ถูกเก็บไว้ในบทความที่ชื่อว่า Agel หลอก หลอกจริงหรือ? ของอาจารย์นั้น ทำให้คนที่ไม่ชอบ MLM อย่างผม รู้สึกว่าผมจะต้องทำ MLM ให้ได้
ผมไม่ได้ถูก Agel หลอก เหมือนกับชื่อของบทความ ผมไม่ได้ถูกอาจารย์หลอก เพียงแค่ผมได้อ่านบทความผมก็ตัดสินใจที่จะร่วมทีมงานกับ อาจารย์เอกภพ เกษมวรศักดิ์ ทันที
หรือถ้าเพื่อนๆที่ได้มาเจอบทความนี้ของผม และยังไม่มีเวลาที่จะอ่านบทความ Agel หลอก หลอก จริงหรือ? ของอาจารย์ จะให้ผมส่งข้อมูลไว้อ่านเล่นๆ ยามว่างก็ได้นะครับ ที่
ที่ give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กร ครับ
ขอให้เพื่อนๆโชคดีกับการทำธุรกิจเครือข่ายทุกคนนะครับ ถึงแม้เราจะไม่มีโอกาสร่วมงานกันแต่ก็เป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่ทำธุรกิจเครือข่าย และขอฝากบทความ Agel หลอก หลอก จริงหรือ ของอาจารย์ เอกภพ เกษมวรศักดิ์ ไว้ เป็นบทเรียนแรกด้วยนะครับ

กร คุปตะนรสิงห์
ทีมงาน give and rich

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

ท่อส่งเงิน?

ท่อส่งเงิน ?
ท่อส่งเงินคืออะไร ? มีใครเคยได้ยินบ้างมั๊ยครับ จากความเข้าใจของผมเอง ท่อส่งเงินก็คือ “สินทรัพย์” ของเรานั่นเอง อย่างเช่นถ้าเรามีอพาร์ทเม้นท์สัก 1 อาคาร มีผู้เช่าพักเต็มเรามีรายได้ทุกเดือน อพาร์ทเม้นนี้ก็คือ สินทรัพย์หรือท่อส่งเงินของเรานั่นเอง
หรือเราอาจจะมีรถแท็กซี่ให้เช่าสัก 1 – 2 คัน หักค่าผ่อน หักค่าบำรุงรักษา หักค่าเสื่อมของรถแล้วยังมีเงินเหลือ รถแท๊กซี่ก็เป็นสินทรัพย์เช่นกัน เป็นท่อส่งเงินของเราเหมือนกันครับ แต่อย่าให้รายจ่ายมากกว่ารายรับนะครับไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นหนี้สิน ติดหนี้หัวโตกันพอดี
แล้วถ้าเราไม่มีปัญญาจะมีอพาร์ทเม้นหรือมีรถแท็กซี่หละ เราจะมีท่อส่งเงินได้อย่างไร ผมแนะนำวิธีง่ายๆครับ สิ่งที่หลายๆคนไม่ชอบหลายๆคนปฏิเสธ แต่ทั้งในแง่ทฤษฎีและปฏิบัติแล้ว การทำ MLM หรือ ธุรกิจเครือข่าย ก็ถือได้ว่าเป็นท่อส่งเงิน หรือสินทรัพย์ชนิดหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องทำให้สำเร็จในระดับนึงก่อน ไม่อย่างนั้นแทนที่จะมี ท่อส่งเงินก็จะกลายเป็นท่อดูดเงินไปซะ
แล้วถ้าคุณอย่างจะลองศึกษา การทำ ธุรกิจเครือข่ายให้สำเร็จ มีวิธีอย่างไร ผมยินดีให้คำปรึกษานะครับ
ติดต่อผมได้ตลอดครับ give.korn@gmail.com โทร 0840705140 กรครับ

ทีมงาน give and rich

วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทำอย่างไรถึงจะมีดาวน์ไลน์

ทำอย่างไรถึงจะมีดาวน์ไลน์ ทำอย่างไรดาวน์ไลน์ถึงจะมีประสิทธิภาพ เป็นคำถามที่หลายๆคนอยากได้คำตอบ ผมเองก็เพิ่งเริ่มต้นทำงานธุรกิจเครือข่าย ผมเองก็อยากมีดาวน์ไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ถ้ามีใครที่สามารถให้คำตอบผมอย่างจริงจังและจริงใจได้ บอกรายละเอียดผมทีที่ give.korn@gmail.com โทร 0840705140 กรครับ
แต่สิ่งที่ผมปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้ ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมเริ่มรู้จักธุรกิจเครือข่าย ผมเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ แต่ที่แน่ๆผมรู้ว่าต้องใช้เวลา แต่ไม่เป็นไรครับผมรอได้ถ้ามันจะประสบความสำเร็จจริงๆ สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้คือ
- ผมตอบเมลล์ทุกฉบับให้กับผู้มุ่งหวัง ที่ผมใช้ระบบแรงดึงดูดของทีมงาน giveandrich ในการหาดาวน์ไลน์
- ให้ความรู้กับทุกคนในการทำงานกับธุรกิจเครือข่าย เพื่อที่จะให้คนที่ได้รับความรู้จากผมตัดสินใจมาร่วมธุรกิจเครือข่ายเดียวกับผม
- ให้เวลาให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิคต่างๆ
- ใช้ อินเตอร์เนต ในการสร้างเครือข่ายให้กับตัวเองและทีมงาน เพราะถ้าทีมงานไม่แข็งแรง เราเองก็จะไม่แข็งแรงไปด้วย
- ผมบอกและอธิบายรายละเอียดทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง
ถ้าใครที่อ่านแล้วคิดว่าพอจะนำไปใช้ได้บ้างผมก็ยินดีนะครับ แต่ถ้าใครที่กำลังเริ่มรู้สึกตันกับการทำงานในด้านธุรกิจเครือข่าย ลองปรึกษากันแลกเปลี่ยนความรู้กันได้นะครับ ที่
give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กรครับ

และถ้าเพื่อนๆ อยากจะร่วมทำธุรกิจเครือข่ายเดียวกับผมผมก็ยินดีครับ ลองมาคุยรายละเอียดกันที่
give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กรครับ

ผมขอให้เพื่อนๆ ที่ทำงานในธุรกิจสายเดียวกันประสบความสำเร็จทุกคนนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

การหาดาวน์ไลท์ แบบonline

การ หาdownline แบบ online นั้นเป็นอย่างไร ก็คือการใช้อาวุธของโลกแห่งอนาคต นั่นก็คือ internet ไงครับ
- ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น หาดาวน์ไลน์ได้ง่ายขึ้น
- ดาวน์ไลน์ที่มาร่วมกับเราล้วนมีความตั้งใจ และมีประสบการณ์จากการทำงานแบบ offline แต่ทำไม่สำเร็จ
- สะดวกในการอบรมสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัดและประหยัดค่าใช้จ่าย ฯลฯ
ข้อดีของการหา downline แบบ online คร่าวๆ
แต่จะให้บอกวิธีการทั้งหมดการเขียนบทความของผมคงจะยาวจนน่าเบื่อ เอาเป็นว่าถ้าสนใจแบบ online เมลล์มาได้นะครับ
give.korn@gmail.com หรือ โทร 0840705140 กรครับ
ผมจะบอกวิธีการทั้งหมดที่ผมได้เรียนรู้ จาก อาจารย์ เอกภพ เกษมวรศักดิ์ ผู้แต่ง “คัมภีร์แรงดึงดูด” ชื่อก็บอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็น คัมภีร์ ถ้าอยากได้คัมภีร์ก็ต้องเป็นลูกศิษย์ วิชาที่ฝึกสอนและเรียนกันก็คือ วิชา ดึงดูด เมื่อร่ำเรียนจนสำเร็จวิชานี้สิ่งที่คุณจะได้ก็คือคำตอบในการ หาdownline แบบ online

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

unicity หลอก

Unicity หลอก หลอกยังไง?
พอดีว่างๆ ครับเลยลองเข้าอินเตอร์เนต เวบอันดับแรกที่ผมตั้งไว้คือ Google ผมเรียก Google ว่าอาจารย์ครับเพราะไม่ว่าผมอยากจะรู้อะไรผมก็ได้คำตอบทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เหมือนกันครับ ผมกำลังหาข้อมูลของ unicity ก็มีหัวข้อ unicity หลอก อยู่ในรายการ เลยลองเปิดหัวข้อ unicity หลอก มาลองอ่านและลองศึกษาว่าหลอกยังไง ก็ไม่เห็นว่า unicity หลอก จะหลอกตรงไหน นอกจากใจความที่อ่านแล้วก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของผู้เขียนบทความได้ในระดับหนึ่ง ว่าเวลาที่จะต้องไปอบรมแล้วมีคนใส่ชุดสูทสีดำมายืนต้อนรับปรบมือให้เรา แล้วเวลาที่ไปอบรมจะต้องเสียค่าอบรมเท่าโน้นเท่านี้ หรือบางครั้งก็อาจจะฟรี แต่สุดท้ายก็อาจจะต้องเสียค่าสมัครไปกับเขาเพื่อจะร่วมธุรกิจโดยที่คุณไม่เต็มใจ
แล้วก็มาสรุปเอาดื้อๆว่าโดนหลอก โดน unicity หลอก แต่ลองมองย้อนกลับไปในเหตุการณ์สักนิดว่ามีใครบังคับคุณหรือก็หาไม่ มีแต่คุณที่ร่วมธุรกิจกับเขาแบบผ่านๆ แบบยอมเสียเงินเพื่อจะกลับบ้านโดยเร็ว ผมเองไม่ได้เป็นสมาชิกของ unicity นะครับ แต่ผมเคยไปฟังมาเหมือนกันแต่ผมก็ไม่ได้สมัครอะไร เพียงแต่ผมบอกคนที่มาชวนว่าผมยังไม่พร้อม เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร unicity หลอก ผมรึป่าวก็ป่าวนะครับ แต่ผมว่าการที่มาบอกกล่าวกันโทษกันว่า unicity หลอก นี่ก็ไม่เป็นธรรมกับบริษัทเขา เพราะ unicity เองก็มีคนร่วมธุรกิจเยอะ แล้วก็มีหลายคนประสบผลสำเร็จ แล้วก็ยังมีอีกหลายๆบริษัทที่โดนโจมตีเช่นเดียวกับ unicity หลอก ผมเองก็เป็นคนที่เกลียด mlm มากเหมือนกัน ในช่วงอายุ 22 – 30 ผมเกลียด mlm มากใครมาชวนก็จะโกรธ แต่พอโตขึ้นได้เรียนได้ศึกษามากขึ้น จากคนที่ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจในการเรียนระดับชั้น ปวช ปวส สายช่าง เมื่อเรียนในระดับชั้นปริญญาตรีถึงจะพอรู้บ้างว่ามันก็เป็นช่องทาง ช่องทางหนึ่งในการทำธุรกิจ ยิ่งคนที่ได้เรียนในระดับชั้นปริญญาโท ก็น่าจะยิ่งมีความรู้ด้านนี้มากขึ้น มากกว่าเดิม ซึ่งผมเองก็ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็เปิดใจยอมรับในระดับหนึ่ง ยิ่งมาเจอบทความ unicity หลอก ก็ยิ่งทำให้ผมมองตัวเองกลับไปเมื่อตอนที่มีคนชวนทำธุรกิจ mlm ครั้งแรกว่าตัวผมเองตอนนั้นก็รู้สึกแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเปิดใจกับทุกคนที่มาชวนนะครับ เพราะบางคนที่มาชวนก็ช่างน่าเบื่อน่ารำคาญจริงๆ คนที่มาชวนประเภทน่าเบื่อน่ารำคาญนี่แหละที่น่าจะเป็นที่มาของบทความ unicity หลอก
แต่ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ความรู้สึกที่ดีกับบริษัท mlm ไม่อยากรู้สึกว่าโดน unicity หลอก หรือโดนบริษัทโน้นบริษัทนี้หลอกแล้วหละก็ คุณก็ต้องทำธุรกิจเครือข่ายของคุณให้ประสบผลสำเร็จ
- แล้วจะต้องทำไงหละในเมื่อไม่ค่อยมีเวลา? คุณก็ต้องทำงานแบบออนไลท์ไงครับ
- ทำออนไลท์แล้วจะดีเหรอ? ดีแน่นอน 100% แต่คุณต้องเลือกทีมของคุณที่รับผิดชอบต่อองค์ความรู้ของคุณให้ลื่นไหล
- แล้วมันจะดียังไงหละ? คุณก็สามารถหาผู้มุ่งหวัง หรือ ดาวน์ไลน์มาร่วมสายงานคุณได้ไงครับ
- แล้วจะได้คนมีคุณภาพเหรอก็เราไม่รู้จักเค๊า? ใช้ระบบดึงดูดอัตโนมัติในการเลือกเฟ้นครับ รับรองว่าดาวน์ไลน์คุณ คุณภาพ 100%
- แล้วต้องติดต่อที่ไหนหละ ? ที่ผมไงครับ นายกร คุปตะนรสิงห์ โทร 0840705140
Email : give.korn@gmail.com ยินดีตอบคำถามและช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ ถึงแม้คุณจะไม่ร่วมทีมกับผมก็ตาม
แด่ความสำเร็จของคุณ เพียงคุณกล้าคุยกล้าถาม จะได้ไม่ต้องไปโจมตีหรือต่อว่าใคร แบบ unicity หลอก อีกเลยนะครับ

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ถ้าเป็นไปได้

ถ้าเป็นไปได้
สิ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจลองทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ไม่มีสิ่งใดที่จะยั่วใจเราได้มากเท่ากับเงินก้อนโตไม่มีอะไรดึงดูดเราได้มากเท่ากับแผนการตลาดอันแยบยลของแต่ละค่าย ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ทำให้หลายต่อหลายคนผิดหวัง ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ทำให้หลายต่อหลายคนประสบความสำเร็จ ทำไม? ทำบริษัทเดียวกันถึงได้ผลลับที่แตกต่างกัน มุมมองของผมเองผมมองว่าการร่วมลงทุนในการทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ก็เหมือนกับตอนที่เราเรียนหนังสือ เรามีเพื่อนร่วมชั้นเรียนอยู่ราวๆ 50 คน แต่ก็ไม่มีชั้นเรียนใดที่จะสอบได้ที่ 1 ทั้ง 50 คน เพราะอะไร? ก็เพราะว่าทั้ง 50 คน มีความขยันหมั่นเพียรแตกต่างกันไป
และก็ใช่ว่าคนที่ขยันเรียนจะเก่งกว่าเรียนดีกว่า คนที่ขยันน้อยกว่าใช่มั๊ยครับ? แล้วลองคิดดูว่าถ้าทั้ง 50 คนนั้นสามัคคีกัน มาติวเข้มซึ่งกันและกัน ถึงแม้เวลาสอบจะไม่ได้ที่1 เท่ากัน แต่ระดับผลคะแนนก็คงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ทีนี้ลองมองดูในด้าน ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ถ้าในทีมงานทีมงานหนึ่งนั้นมีคนที่ประสบผลสำเร็จแล้ว แล้วนำวิธีการที่ทำสำเร็จไปแล้ว นำกลับมาติวเข้มให้ทีมงาน สิ่งที่เราจะได้คืออะไร? ก็คือความสำเร็จที่ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไร ไงครับ
แต่สิ่งที่มักจะเจอในการทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง นั้นคือเรามักจะเจอพวกน้ำเต็มแก้ว ไม่ว่าเราจะอธิบายยังไงจะพูดยังไงก็มีแต่คำคัดค้าน มีแต่เสียงคัดค้าน มักจะมองว่าถูก upline หลอก ซึ่งแท้จริงแล้ว หลักในการทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ก็คือเราต้องการ downline ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่มาร่วมลงทุนส่งเดช เสียเวลาเสียเงินเสียความรู้สึกกันทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าคุณๆทั้งหลายเคยเจอสิ่งที่ผมเล่าให้ฟัง คุณๆทั้งหลายพร้อมและต้องการที่จะเริ่มต้นทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง ใหม่อีกครั้งโดยมีที่ปรึกษาและทีมงานคอยช่วยเหลือตลอดระยะเวลาในการทำ ธุรกิจเครือข่ายขายตรง เพื่อที่จะประสบผลสำเร็จอย่างจริงจังซะที
ติดต่อมาที่ give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กรครับ
โดยทีมงาน giveandrich

วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผมเป็น upline

สิ่งที่ทุกๆท่านที่เคยทำ MLM กันมาก่อนคงจะหลีกเลี่ยงไม่พ้นกับคำว่า upline และ downline คนที่ชวนเราร่วมธุรกิจ ให้คำปรึกษาถึงวิธีการทำงานกับเรา เราเรียกว่า upline หลังจากนั้น เราก็เริ่มหาผู้มุ่งหวังและชวนมาร่วมธุรกิจกับเราโดยที่มีเราเป็นที่ปรึกษา เราเรียกว่า downline
สิ่งที่ downline ที่ไม่ประสบผลสำเร็จมักจะมองเป็นสิ่งแรกก็คือ ถูกบริษัทหลอก ถูก upline หลอกโดยที่ไม่ได้มองกลับมาที่ตัวเองว่า สิ่งที่ได้ทำไปนั้นทำได้ขนาดไหน สิ่งที่ต้องทำนั้นทำแล้วหรือยัง ไม่มีบริษัทไหนค่ายไหนที่คุณจะจ่ายเงินเข้ามาแล้วจะทำให้คุณมีรายได้โดยที่ไม่ได้ทำงานหรอกครับ เพราะผมเองเคยเป็น downline แบบนี้มาก่อน
และสิ่งที่ upline ที่ไม่ประสบผลสำเร็จมักจะมองเป็นสิ่งแรกก็คือ ทำไม downline พูดยาก อธิบายยาก เข้าใจยาก เสียเวลาจริงๆ ไม่รู้จะสมัครมาทำไม
เห็นมั๊ยครับ 2 มุมมองระหว่าง upline และ downline ถ้าทั้ง 2 ร่วมมือกันก็คงจะประสบผลสำเร็จในไม่ช้า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องว่ากล่าวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะว่าเราเองนั้นก็ต้องเป็นทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว ในการทำธุรกิจ MLM มันเหมือนกับว่าเรากำลังต่อว่าตัวเองใช่มั๊ยครับ
ถ้าเพื่อนๆ ที่กำลังทำ ธุรกิจ MLM อยู่ในขณะนี้แล้วกำลังประสบปัญหา ลองมาศึกษาในสิ่งใหม่ๆ วิธีการใหม่ๆ กับเราดูบ้าง โดย ทีมงาน giveandrich และอาจารย์เอกภพ เกษมวรศักดิ์ ติดต่อเพื่อศึกษาและหาข้อมูลได้ที่
give.korn@gmail.com หรือโทร 0840705140 กรครับ

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทำไมเรารักกัน

ผู้ใหญ่มักจะบอกเราถึงการใช้ชีวิตคู่เสมอๆว่าให้ปรองดองกัน ให้พยายามเข้าใจกัน มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน แต่พอมาถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าการใช้ชีวิตคู่นั้นมันค่อนข้างจะยากพอสมควร ผมรู้สึกทึ่งกับพ่อและแม่มาก ไม่รู้ทนมาได้ยังไงกับการต้องเลี้ยงลูกถึง 5 คน ทนได้ยังไงกับความยากจนกับความลำบาก แล้วก็ยังอยู่ด้วยกันจนอายุขนาดนี้ ตอนนี้ผมกำลังเจอกับสิ่งเหล่านั้นอยู่ ตอนนี้ผมกำลังเจอคำตอบในสิ่งเหล่านั้น ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายๆคู่ หลายๆครอบครัวถึงมีปัญหาขัดแย้งกัน ดูมันช่างละเอียดอ่อนซะเหลือเกิน ทำงานกลับบ้านมาเหนื่อยก็โดนว่ากลับช้า กลับบ้านช้าก็หาว่าไปมีเมียน้อย เงินไม่พอใช้ก็โดนว่าสุรุ่ยสุร่าย ถ้าฝ่ายนึงที่เจอแบบนี้แล้วตอบโต้กลับก็คงจบลงด้วยการหย่าร้าง แต่ก็มีที่ความรักผสมผสานกับความอดทนอดกลั้นอย่างครอบครัวของผม ปัญหาส่วนใหญ่ก็คงไม่ต่างจากครอบครัวอื่น แต่ด้วยความที่พยายามจะเข้าใจกันให้กำลังใจกันและที่สำคัญในวันที่ผมตกงานหางานทำไม่ได้เราตัดสินใจเก็บขยะกัน ก็ร่วมกันต่อสู้ เราก็ยังไม่เลิกกันฝ่าฝันกันมาได้อาจจะยังไม่ดีมากนัก แต่ก็คงมีความสุขแหละครับ

วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553

หรือผมคิดถูกครับ

กำลังนั่งจิบกาแฟสบายๆกับบรรยากาศยามเช้าเพลินๆ ก็ดันมีอะไรแว๊บขึ้นมาอีกแล้ว กำลังคิดเรื่องของ เครดิตบูโร มีใครสงสัยเหมือนผมมั่งมั๊ยครับว่าเครดิตบูโรมีประโยชน์ยังไงบ้าง นอกจากใช้ขู่พวกลูกหนี้ว่าถ้าติดแล้วจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินได้ แต่จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้ขู่หรอกครับ โดนตัดสิทธิ์ทุกอย่างจริงๆ จริงซะจนมองดูว่ามันงี่เง่า เป็นแนวความคิดของคนที่มีการศึกษาสูง แล้วก็มีอายุเกินเลข 4 ไม่กี่คนที่สำคัญน่าจะประสบการณ์น้อยในเรื่องของสังคมระดับล่าง สิ่งที่ผมสังเกตุคนที่ติดบูโรส่วนใหญ่มักจะเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย พนักงานระดับล่างที่ยังไม่มีการวางแผนในการใช้เงิน ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าคุณเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจนจนถึงฐานะปานกลาง หลังจากที่คุณเรียนจบคุณมีงานทำคุณเริ่มเป็นคนของสังคม แล้วจนถึงวันนึงที่คุณทำบัตรเครดิตใบแรก จากพนักงานเงินเดือน 10,000 กว่าบาท มีวงเงินในอนาคตมาให้จับจ่ายใช้สอยเพิ่มอีกค่อนข้างมากจากคนที่เวลาจะใช้เงินแต่ละครั้งต้องคิดต้องพะวงต้องระมัดระวังก็จะพลาดตอนนี้แหละครับแล้วส่วนใหญ่ก็อายุไม่ถึงเลข 3 พอพลาดไปบ่อยๆ ก็ติดบูโร แล้วบูโรช่วยอะไรประเทศชาติบ้างผมดูว่าแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะคนที่ติดบูโรเป็นคนที่ค่อนข้างอายุน้อยแต่ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้ จะกู้ซื้อบ้านยังไงดีถ้าเริ่มมีการวางแผนการใช้เงินแล้ว จะซื้อรถยังไงดี คงต้องกู้กับบริษัทที่ไม่สนใจบูโร แต่ดอกเบี้ยก็แพงกว่า แถมถ้าติดบูโรแล้วคนที่เขาอยากจะจ่ายคืนเวลาที่พร้อมเขาก็คงไม่อยากจ่าย เพราะจ่ายไม่จ่ายก็ติดบูโร จริงมั๊ยครับ ผมเลยคิดเอาเล่นๆว่าที่เศรษฐกิจโตช้าทุกวันนี้ บูโรเป็นต้นเหตุส่วนนึง ผมคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องหาทางทำอะไรกับบูโรให้มันดีขึ้นใช้มันให้เป็นมันถึงจะมีประโยชน์สูงสุดกับสังคมครับ

วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

ผีกระสือ

ผีกระสือ
จากบทความก่อนผมได้ทิ้งท้ายไว้ว่าบทความต่อไปจะเล่าถึงเรื่องลี้ลับบ้าง ตอนนี้อายุผมก็เกือบจะ 40 แล้วครับผมสามารถเล่าเรื่องพวกนี้ได้โดยที่ไม่กลัวไม่ขยาดเหมือนเมื่อตอนเป็นเด็กแล้ว ผมเป็นคนนึงที่ค่อนข้างจะมีเซนส์ทางนี้คือพบเจอบ่อยแต่ก็เป็นแค่ช่วงเวลานึงเท่านั้น บางครั้งก็น่ากัว บางครั้งก็ไม่น่ากัวแต่ก็หลอนดีครับ เคยมีหลายคนบอกว่าผมเป็นพวกจิตอ่อนเลยเจอบ่อย บางคนก็บอกว่าผมจิตแข็งเขาเลยอยากให้เจอ แต่คงไม่มีใครรู้จริงๆหรอกว่าเวลาเจอแล้วถ้าเล่าให้ใครฟังบางคนก็ฟังด้วยความตื่นเต้นสนใจ แต่บางคนก็ฟังแล้วเรากลับกลายเป็นพวกขี้โม้ ผมเลยเฉยๆไม่อยากเล่าประโยชน์อะไรก็ไม่ได้อยากแชร์ประการณ์ก็แค่นั้น เรื่องที่ผมจะเล่าวันนี้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่จะว่าผมโม้หรือว่าจะชอบที่ได้รับอะไรแปลกๆจากผมก็คอมเมนท์กันได้นะครับ
มันเป็นเรื่องราวสมัยตอนที่ผมอายุ 8 ขวบ ผมเกิดที่กรุงเทพฯแต่บ้านเดิมของคุณแม่เป็นคน จ.น่านทุกๆวันหยุดของผม หรือปิดเทอมคุณแม่ก็มักจะกลับไปบ้านคุณยายที่ จ.น่าน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ที่ จ.น่านนั้นมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นช้ามาก นั่นเป็นเสน่ห์ของ จ.น่านครับ ที่ยังคงดูใสและบริสุทธิ์ จะเปลี่ยนไปบ้างก็คงจะเป็นเรื่องของไฟฟ้าและน้ำประปาที่สะดวกสบายมากขึ้นเพราะช่วงเวลาที่ผมเป็นเด็กนั้นยังใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดอยู่ ส่วนน้ำก็ใช้เกวียนใช้วิธีหาบเอามาจากแม่น้ำน่าน ซึ่งความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่ผมรังเกียจมากที่สุดสำหรับผมคือการที่พวกนายทุนขอสัมปทานดูดทรายจากแม่น้ำน่าน แม่น้ำน่านของผมได้เกือบจะหายไปจากความทรงจำผมซะแล้วเพราะเมื่อก่อนมันใสยังกับกระจก เดี๋ยวทั้งขุ่นทั้งสกปรก เลว จันไร มาก ระยำ ……. ขอโทษครับอย่างผมก็คงจะเขียนได้แต่บทความความฝันที่จะเป็นนักเขียนคงไม่มีวันเป็นจริงเวลาที่ผมเขียนถึงเรื่องเลวๆทีไรมักจะใส่อารมณ์ลงในบทความด้วยทุกครั้งไป ตายหละลืมเรื่องกระสือขอโทษอีกครั้ง ^ ^ มันเป็นเรื่องราวของเด็กอะครับพอมาอยู่ต่างจังหวัดหลายๆวัน ก็คิดถึงกรุงเทพ จริงๆก็ไม่ได้คิดถึงกรุงเทพฯเท่าไหร่หรอกครับแต่คิดถึง ทอมกับเจอรี่ คิดถึง ฮุ๊นปวยเอี๊ยง เรื่องกระบี่ไร้เทียมทานมากกว่า เพราะที่บ้านคุณยายผมท่านไม่มี ทีวี ไม่มีไฟฟ้า เลยเกิดความเหงา ช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆซึ่งแถวบ้านก็มืดสนิทแล้วครับ ผมนั่งอยู่ที่เฉลียงบ้านนั่งมองไปที่ถนน ดูแสงไฟจากหน้ารถยนต์แล้วก็ถามกับตัวเองว่าเมื่อไหร่จะได้กลับกรุงเทพฯ นั่งดูไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แล้วผมก็เห็นไฟดวงนึงสว่างวาบมาจากบริเวณถนน ในความเข้าใจของผมคิดว่าน้าปั่นจักรยานกลับบ้านเพราะจักรยานที่บ้านจะติดไดนาโมที่เวลาปั่นแล้วจะมีไฟหน้าติดขึ้นมา วาบๆ จนผมเริ่มผิดสังเกตเพราะไฟดวงนั้นดันตรงมาทางทุ่งนา ไม่ใช่มาตามถนน ผมก็เริ่มสังเกตว่าไฟอะไร มันลอยใกล้เข้า